ออรอซ

Aurochs เป็นสัตว์ป่าสายพันธุ์หนึ่งที่กาลครั้งหนึ่งเคยท่องไปในพื้นที่กว้างทั่วยุโรปทวีปเอเชียรวมทั้งแอฟริกาเหนือ

คล้ายกับโคขนาดใหญ่สายพันธุ์นี้เคยยอดเยี่ยมในสัตว์รับประทานต้นหญ้าที่แพร่หลายที่สุดในโลกเมื่อหลายพันปีกลาย แม้กระนั้นแรงกดดันด้านราษฎรจากมนุษย์และก็โคที่เลี้ยงในบ้านเบาๆลดปริมาณลงเหลือแค่บางส่วน Aurochs ที่รู้จักกันหนสุดท้ายได้สิ้นพันธุ์ไปในปี 1627 ในภาคกึ่งกลางของประเทศโปแลนด์ อย่างไรก็ดี Aurochs ได้ยึดเกาะกับจินตนาการของคนเราอย่างมีคุณภาพว่ามีความบากบั่นเยอะแยะที่จะช่วยชีวิตสิ่งมีชีวิตที่สิ้นพันธุ์ไปจากความตาย

lqV7Wq.jpg

5 ข้อพิสูจน์เกี่ยวกับ Aurochs ที่น่าทึ่ง
Aurochs เป็นบรรพบุรุษของโคที่เลี้ยงในบ้านทั้งปวง เรื่องราวในบ้านเกิดขึ้นทีแรกเมื่อราว 10,000 ปีที่ผ่านมา
นักวิทยาศาสตร์มั่นใจว่าพวกมันถูกเลี้ยงมาแล้วสองครั้ง: ทีแรกที่ก่อให้เกิดโคชนิด Zebu ในทวีปเอเชียใต้และก็ชั้นสองทำให้เกิดโคทอรีนของยุโรป
Aurochs มีหน้าที่สำคัญในหลายวัฒนธรรมของคนเรา เป็นภาพวาดในถ้ำ Lascaux ที่เป็นที่รู้จักของประเทศฝรั่งเศสซึ่งแก่ราวๆ 17,000 ปี พวกเขายังปรากฏบนยี่ห้อประจำเครือญาติภาพวาดฝาผนังรวมทั้งเครื่องเพชรพลอยต่างๆทั้งโลก พวกเขายังได้รับการชี้แจงอย่างแจ่มแจ้งโดย Julius Caesar ระหว่างการรบในกอล (ประเทศฝรั่งเศสปัจจุบัน)
จนกระทั่งจุดหนึ่งสัตว์กินนมบนบกบางทีอาจเป็นสัตว์กินนมที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ขนาดของพวกเขาแม้ว่าจะบังแมวกระบี่ฟันรวมทั้งยุโรปสิงโต
นักวิทยาศาสตร์ได้มานะที่จะนำเอาออรอคอยคกลับมาด้วยแนวทางต่างๆดังเช่นว่าชีววิทยาและก็ดีเอ็นเอยุคใหม่

ทดลองเล่นสลอต

Aurochs ชื่อวิทยาศาสตร์
ชื่อทางด้านวิทยาศาสตร์ของวัวกระทิงเป็นBos primigenius ชื่อนี้มาจากคำภาษาละตินซึ่งก็คือลูกคนแรกหรือลูกคนต้นปี สิ่งนี้มีขึ้นเพื่อชี้ว่า aurochs เป็นบรรพบุรุษของโคที่เลี้ยงในบ้านทั้งผอง ชื่อที่ไม่เป็นทางการของ aurochs มาจากคำภาษาเยอรมันยุคใหม่ช่วงต้นสำหรับสายพันธุ์ ชื่ออื่นเป็น urus

aurochs เป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของสกุล Bos ซึ่งรวมทั้งโคป่ารวมทั้งโคที่เลี้ยงในบ้าน โดยปกติมีการพินิจว่าเป็นออรอคอยคชนิดย่อยที่ต่างกันสามประเภทที่สอดคล้องกับภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ของพวกเขา นักอันดับข้อบังคับบางบุคคลบางทีอาจแบ่งประเภทวัวที่เลี้ยงในบ้านเป็นประเภทย่อยอื่นหรือสายพันธุ์ที่แยกจากกัน นอกเหนือจากนั้น aurochs เกี่ยวโยงกับเนื้อทรายควายแอนทิโลปแกะและก็แพะเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของสกุล Bovidae

ลักษณะแล้วก็การกระทำของ Aurochs
หมาจิ้งจอกเป็นพวกของสัตว์กีบเท้าคู่ – ซึ่งก็คือสัตว์กีบเท้าที่มีน้ำหนักเสมอกันที่นิ้วเท้าทั้งสองข้าง ถึงแม้ว่าพวกมันจะสิ้นพันธุ์ไปแล้ว แต่ว่านักวิทยาศาสตร์ก็สามารถสร้างรูปลักษณ์ของมันขึ้นมาใหม่ได้ด้วยความเที่ยงตรงระดับหนึ่งจากกระดูกภาพวาดคำชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรรวมทั้งการวิเคราะห์ทางพันธุกรรม aurochs มีลักษณะคล้ายกับโคยุคใหม่ แม้กระนั้นมีขาที่ยาวกว่ากะโหลกศีรษะที่ใหญ่มากยิ่งกว่าเขากว้างรวมทั้งกล้ามไหล่ขนาดใหญ่ สีเสื้อเป็นสีดำหรือสีน้ำตาลเข้มมีแถบสีขาวพิงไปตามกระดูกสันหลัง

ทดลองเล่นสล๊อต

สัตว์ร้ายที่น่าเคารพกลุ่มนี้บางทีอาจวัดได้มากถึงหกฟุตที่ความสูงระดับไหล่และก็มีน้ำหนักระหว่าง 1,500 ถึง 3,000 ปอนด์ สิ่งนี้จะก่อให้พวกมันอยู่ในกรุ๊ปโคที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีชีวิตอยู่ วัวตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าวัวตัวผู้โดยเฉลี่ยมากมายแล้วก็ยังมีเขาที่เล็กมากยิ่งกว่าแล้วก็มีสีจางกว่า

เนื่องจากว่านักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถที่จะพิจารณาความประพฤติปฏิบัติของออรอคอยคได้โดยตรงพวกเขาก็เลยจำต้องทำอนุมานตามคำชี้แจงที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากบันทึกทางประวัติศาสตร์และก็ความประพฤติของวัวยุคใหม่ เช้าใจกันว่า aurochs รวมตัวกันเป็นฝูงสูงถึง 30 คนตรงเวลาอย่างต่ำส่วนหนึ่งส่วนใดของปี บางทีอาจเป็นได้ว่าบางฝูงส่วนมากมีเพศเดียวในแต่ละครั้ง

เหมือนกันกับโคยุคใหม่พวกเขาอาจมีความสัมพันธ์ทางสังคมที่สลับซับซ้อนซึ่งบางทีอาจเกี่ยวโยงกับความรักหรือการคลุมงำขึ้นกับเหตุการณ์ อีกทั้งชายแล้วก็หญิงมีส่วนร่วมสำหรับการต่อสู้และก็แสดงสถานะด้านสังคม เมื่อถูกยุเพศผู้จะหยาบมากมายและก็อาจส่งผลให้ผู้ตามล่าหรือภัยรุกรามได้รับบาดเจ็บร้ายแรง ด้วยเหตุว่าพวกมันมีขนาดใหญ่กว่าวัวควายในขณะนี้ค่าครองชีพของพวกมันสามารถฆ่ามนุษย์ที่โตเต็มวัยได้ง่ายๆ อย่างไรก็ดีเมื่อจะต้องจัดการกับสมาชิกผู้อื่นในสายพันธุ์เดียวกันความนิสัยไม่ดีของพวกมันบางทีอาจขึ้นกับความต่างในชั้น ข้อโต้แย้งสามารถเลิกได้อย่างสงบเงียบเหมือนกัน

เหมือนกันกับกีบเท้าฯลฯออโรชอาจมีดวงตาที่มีรูม่านตาแนวยาวที่ข้างๆของหัวเพื่อแลเห็นสิ่งแวดล้อมได้กว้าง พวกเขายังได้รับข้อมูลล้นหลามจากการรับทราบกลิ่นการได้ยินรวมทั้งการสัมผัส

จากการเรียนยุคใหม่เกี่ยวกับความรู้ในวัวบางทีอาจเป็นได้ว่าออรอคอยคมีความรู้ความเข้าใจ จำกัด สำหรับในการจำแหล่งของกินและก็จำแนกระหว่างความเชื่อมโยงที่เคยชิน พวกเขามีการออกเสียงที่ต่างกันเพื่อติดต่อสื่อสารกับสมาชิกสายพันธุ์อื่นๆหรือให้คำตักเตือนถึงภัยรุกรามที่บางทีอาจเกิดขึ้น

เครดิตฟรี

ออรอคอยคส์ (Bos primigenius)

ที่พักที่อาศัย Aurochs
เมื่อถึงจุดสุดยอดของปริมาณพลเมืองของพวกมันออรอคอยคได้เดินทางผ่านทวีปส่วนมากของยูเรเซีย สายพันธุ์ย่อยหลักของ aurochsหมายถึง Bos primigenius primigenius ครอบคลุมพื้นที่เป็นจำนวนมากตั้งแต่มหาสมุทรแอตแลนติกไปจนกระทั่งห้วงมหาสมุทรแปซิฟิคแม้ว่าจะไม่อยู่ในไอร์แลนด์แหลมอาหรับทวีปเอเชียใต้รวมทั้งประเทศทิเบตประเทศญี่ปุ่นแล้วก็ตอนเหนือไกลออกไป จำพวกย่อยลำดับที่สองBos primigenius namadicus โดยมากเจอในอนุทวีปประเทศอินเดีย ชนิดย่อยลำดับที่สาม Bos primigenius africanus อาศัยอยู่ในภูมิภาคแอฟริกาเหนือตั้งแต่โมร็อกโกไปจนกระทั่งอียิปต์

คนออสเตรเลียถูกใจอาศัยอยู่ในท้องทุ่งที่ราบน้ำหลากถึงแล้วก็ป่าดงที่มีแสงสว่างน้อยในสภาพภูมิอากาศที่อบอุ่น สิ่งนี้ทำให้สามารถเติบโตได้ในสถานที่ต่างๆเยอะมากๆ แต่เพราะเหตุว่าพื้นที่เลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ต้องรักษาปริมาณมวลชนไว้ก็เลยทำให้พวกเขามีความขัดแย้งกับผู้คนและก็โคเลี้ยงในบ้านเพื่อหาพื้นที่พักอาศัย เมื่ออารยธรรมของคนเราแพร่ไปเชื้อสายก็เบาๆตายไปตามที่อยู่อาศัยส่วนมากและก็เหลือเพียงแค่ในยุโรปตะวันออกจนกระทั่งศตวรรษที่ 17

ของกิน Aurochs
Aurochs ได้รับสารอาหารทั้งหมดทั้งปวงจากการและเล็มแผ่นดินขนาดใหญ่ ของกินที่พวกเขารับประทานบ่อยมากที่สุด อาทิเช่น ต้นหญ้าก้านไม้และก็แม้กระทั้งลูกโอ๊ก Aurochs มีกระเพาะสี่ห้องที่มีแบคทีเรียหลากหลายประเภทเพื่อช่วยสำหรับในการย่อยสลายและก็ย่อยเซลลูโลสที่ยากของพืช แต่ละช่องมีภารกิจพิเศษของตนเอง ของกินบางทีอาจใช้เวลาหลายสิบชั่วโมงในกระเพาะของสัตว์ในขณะที่มันสำรอกบดรวมทั้งกลืนซ้ำหลายๆครั้ง กีบเท้าคู่ดูเหมือนจะทุกตัวสามารถกล่าวถึงว่ามีกระเพาะหลายช่อง

โปรสล๊อต

Aurochs Predators and Threats
มีเพียงแต่สัตว์นักล่าที่ดุร้ายที่สุดดังเช่นสุนัขป่าแล้วก็แมวขนาดใหญ่ในสมัยก่อนประวัติศาสตร์แค่นั้นที่กล้าที่จะต่อสู้กับสัตว์ที่โตเต็มวัย ขนาดที่ใหญ่มหึมาของพวกมันทำให้พวกมันสามารถคุ้มครองสัตว์นักล่าได้ในระดับหนึ่ง แต่ลูกวัวอายุน้อยมีการเสี่ยงที่จะถูกให้ออกถ้าหากพวกมันเดินไปไกลจากฝูงมากเกินความจำเป็น ตัวสมบูรณ์เต็มวัยที่ป่วยไข้ทิ้งเอาไว้ด้านหลังฝูงสัตว์ยังเป็นแผนการที่ง่ายสำหรับนักล่าที่หิวโหย

การแพร่ไปของอารยธรรมมนุษย์และก็โคที่เลี้ยงในบ้านบางทีอาจเป็นจุดเปลี่ยนแปลงในชะตากรรมของ Aurochs ต่อให้ก่อนที่จะมีการเติบโตของอุตสาหกรรมยุคใหม่เช้าใจกันว่าออโรชสิ้นพันธุ์ไปจากการรวมกันของการจับสัตว์การสูญเสียที่อยู่ที่อาศัยแล้วก็การแพร่ขยายของโรคที่เกิดขึ้นจากโค การจับสัตว์ Aurochs มักทำเพื่อเป้าประสงค์ในทางปฏิบัติเพื่อได้เนื้อหนังรวมทั้งเขา แม้กระนั้นเมื่อจำนวนต่ำลงการจับสัตว์ออโรชก็เลยเปลี่ยนเป็นกีฬาชนิดหนึ่งสำหรับผู้ดีรวมทั้งคนชั้นสูงที่มีสิทธิพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนยุคกลางในยุโรปตะวันออก

การสืบเผ่าพันธุ์ของ Aurochs เด็กแรกคลอดแล้วก็อายุขัย
หากว่าออรอคอยคจะสิ้นพันธุ์ไปนานแล้วนักวิทยาศาสตร์ก็ได้รับข้อมูลเชิงลึกบางประการเกี่ยวกับการเพาะพันธุ์ออรอคอยคจากการศึกษาเล่าเรียนงานด้านการเขียนทางประวัติศาสตร์รวมทั้งการสังเกตการกระทำวัวยุคใหม่ ฤดูสืบพันธุ์บางทีอาจเกิดขึ้นในช่วงปลายหน้าร้อนหรือต้นฤดูใบไม้ร่วง ผู้ชายชิงชัยกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันเพื่อล่อใจตัวเมียและก็ขับไล่ไสส่งคู่ปรับ

ภายหลังท้องได้ยาวนานหลายเดือนลูกวัวจะคลอดในบางช่วงของฤดูใบไม้ผลิ พวกเขาเริ่มด้วยสีขนที่อ่อนกว่าตั้งแต่ทีแรกกำเนิดรวมทั้งได้ขนสีแก่ขึ้นภายหลังอายุได้ไม่กี่เดือน ลูกวัวจะอยู่ใกล้กับฝูงและก็ได้รับการดูแลและก็ใส่ใจจากแม่กระทั่งถึงวัยที่มีอิสรภาพต่อจากนั้นพวกเขาสามารถเลือกที่จะอยู่กับฝูงหรือร่วมฝูงใหม่

สมมุติว่า aurochs คล้ายกับโคบางทีอาจเป็นได้ว่าพวกมันถึงวุฒิภาวะทางเพศต่อจากนั้นไม่กี่ปีแล้วก็อาศัยอยู่ในป่าเกือบจะ 20 ปี

ประชาชน Aurochs
เหตุเพราะความเคร่งเครียดของประชาชนที่นานาประการปัจจุบันนี้ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บคงเหลืออยู่ในโลก สมาชิกคนในที่สุดของสปีชีส์เสียชีวิตจากต้นสายปลายเหตุทางธรรมชาติในปี 1627 มีการทำให้เห็นว่าการสูญเสียออคอยคเป็นการทำลายความมากมายทางชีวภาพของถิ่นที่อยู่ ด้วยการเล็มต้นหญ้าบนต้นหญ้าออคอยคมีเป้าหมายเพื่อภูมิทัศน์ถูกตัดแต่งรวมทั้งบริสุทธิ์ ป่าดงแซงหน้าพื้นที่หลายแห่งที่หายไป

มีความเพียรพยายามบ่อยครั้งที่จะนำสัตว์ที่มีลักษณะเหมือนหมากลับมาโดยการเลือกเฟ้นประเภทโคที่เลี้ยงไว้ตราบจนกระทั่งจะได้ลักษณะที่อยาก สิ่งนี้เป็นได้เพียงแค่เพราะว่าความเหมือนกันทางพันธุกรรมที่ร้ายแรงระหว่างสัตว์ทั้งคู่ ความพากเพียรหนแรกเกิดขึ้นในปี คริสต์ศักราช 1920 โดยผู้อำนวยการสวนสัตว์ชาวเยอรมันสองคน การทดสอบของพวกเขาผลิตโค Heck แม้ว่าจะแปลกใหม่ แต่ว่าโคก็มิได้มีลักษณะคล้ายกับสัตว์ป่าที่สิ้นพันธุ์ไปอย่างสิ้นเชิง

แผนการ Tauros เป็นความบากบั่นปัจจุบันและก็สลับซับซ้อนสำหรับการดึงเอาความเจ็บกลับมาโดยใช้เครื่องไม้เครื่องมือของชีววิทยายุคใหม่ นักวิทยาศาสตร์ของแผนการได้นำโคสายพันธุ์เริ่มแรกรวมทั้งเริ่มสืบพันธุ์กันเพื่อสร้าง aurochs ขึ้นมาใหม่ คาดว่าจะใช้เวลาสำหรับเพื่อการสืบพันธุ์เจ็ดชั่วลูกชั่วหลานหรือจนกระทั่งราวๆปี 2568 เพื่อได้สัตว์ที่มีลักษณะคล้ายกับออคอยค

อีกแนวทางหนึ่งที่เป็นได้เป็นการคืนชีพออคอยคดั้งเดิมจากซากของดีเอ็นเอที่เก็บรักษาไว้ เหตุเพราะการหมดสิ้นเผ่าพันธุ์ที่ไม่นานมานี้ทำให้ออคอยคทิ้งเยื่อที่ไม่เสียหายซึ่งมีการเสื่อมสภาพค่อนข้างจะน้อย นอกเหนือจากนั้นยังบางทีอาจเป็นได้ที่จะปรับปรุงแก้ไขจีโนมของโคโดยตรงเพื่อสร้างสายพันธุ์ที่คล้ายกับออโรชที่หายไปโดยตรง เนื่องมาจากคำตอบที่ไม่บางทีอาจคาดคะเนได้ความคิดสำหรับในการฟื้นและก็ปลดปล่อยมันสู่ป่ากำลังได้รับการขัดแย้งอย่างสม่ำเสมอโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ

ปริศนาที่มักพบเกี่ยวกับ Aurochs

Aurochs เป็นยังไง?
aurochs เป็นสัตว์ป่าสายพันธุ์หนึ่งที่แก่ราว 2 ล้านปีในยุโรปทวีปเอเชียรวมทั้งแอฟริกาเหนือ มันมีลักษณะคล้ายกับโคในบ้านที่เคยชินซึ่งมีขนาดใหญ่รวมทั้งมีกล้ามเพิ่มมากขึ้นซึ่งในตอนนี้ครอบครองอยู่ทั่วทั้งโลก

เป็นวัวกระทิง ช้างร้อง , สัตว์รับประทานพืชหรือ omnivores ?
เหมือนกันกับโคอื่นๆออรอคอยคเป็นสัตว์รับประทานพืชที่รับประทานต้นหญ้าเป็นหลัก

aurochs ยังมีอยู่หรือเปล่า?
ออรอคอยคเดี๋ยวนี้สิ้นซากอย่างสมบูรณ์ตลอดตอนก่อนหน้านี้

Aurochs ใหญ่มากแค่ไหน?
ขนาดของ aurochs บางทีอาจไม่เหมือนกันบางส่วนตามขณะที่มันอาศัยอยู่ที่ตั้งและก็เพศของมัน เช้าใจกันว่าออโรคแต่ละตัวบางทีอาจสูงระหว่าง 4 ถึง 6 ฟุตที่ไหล่รวมทั้งมีน้ำหนักขั้นต่ำ 1,500 ปอนด์ แบบอย่างที่ใหญ่ที่สุดที่ขุดเจออาจมีน้ำหนักมากยิ่งกว่า 3,000 ปอนด์ เพราะเหตุว่าไม่มี aurochs อีกต่อไปนักวิทยาศาสตร์ก็เลยจำเป็นต้องพึ่งกระดูกที่มีอยู่และก็รายงานผู้เห็นเหตุการณ์ตาค้างแม้กระนั้นเวลานั้น

Aurochs มีพัฒนาการยังไง?
ด้วยเหตุว่าการเชื่อมต่อพัฒนาการอย่างใกล้ชิดกับโคที่เลี้ยงในบ้านประวัติศาสตร์ของ aurochs ก็เลยเป็นที่พอใจของนักชีววิทยายุคใหม่ เช้าใจกันว่า aurochs มีต้นกำเนิดมาจากประเทศอินเดียเมื่อสองล้านปีกลาย ลักษณะอากาศที่หนาวเย็นลงขณะนั้นอาจจะก่อให้ท้องทุ่งเตียนโล่งกระจัดกระจายไปทั้งโลก การใช้ผลดีจากเหตุการณ์ที่อำนวยกลุ่มนี้แล้วต่อจากนั้นแสงก็เบาๆแผ่กระจายออกไปสู่ยุโรปแล้วก็ทวีปเอเชียทิศตะวันออกในขณะหลายแสนปี ในบางประเด็นมีการสงสัยว่าออโรชรวมทั้งโคเลี้ยงในบ้านเติบโตอย่างไม่เหมือนกันมากพอที่จะมีการเปลี่ยนทางพันธุกรรมระหว่างกันนิดหน่อย

มองสัตว์ทั้งผอง 59 ตัวที่เริ่มต้นด้วย A