แอเรเดล เทอร์เรียร์

ประวัติความเป็นมา Airedale Terrier และก็การเลี้ยงในบ้านซึ่งไม่เหมือนกับหมาในประเทศอื่นๆหลายอย่างแหล่งกำเนิดของ Airedale Terrier มีชื่อเสียงกันดี สายพันธุ์นี้ถูกทำขึ้นเมื่อ 150 ปีกลายโดยกสิกรชนชั้นแรงงานในซอกเขาใน West Riding of Yorkshire Airedale Terrier ได้รับการผสมผ่านสายพันธุ์จากหมาประเภทเวลช์เทอร์เรียรวมทั้งออตเทอร์ฮาวด์ Airedale Terrier เปลี่ยนเป็นเทอร์เรียที่เลือกได้อย่างเร็วและก็ได้รับการยินยอมรับอย่างเป็นทางการในปี พุทธศักราช 2429 Airedale Terrier เป็นหมาชนิดเทอร์เรียที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสายพันธุ์เทอร์เรียร์ทั้งหมดทั้งปวงรวมทั้งเดิมผ่านการฝึกอบรมให้เป็นนักล่าสัตว์ขนาดเล็กโดยยิ่งไปกว่านั้น หนู หากว่า Airedale Terrier จะมีขนาดใหญ่ก็แปลว่ามันไม่อาจจะลงไปใต้ดินได้ แม้กระนั้นพวกมันก็มีคุณภาพมากมายสำหรับการจับหนูเมื่อพวกมันโผล่ขึ้นมา Airedale Terrier มีลักษณะที่พึงประสงค์เยอะแยะรวมทั้งความหมายที่ฉลาดมากมากมายที่พวกมันถูกใช้เป็นผู้ส่งสารรวมทั้งหมาตำรวจ ทดลองเล่นสลอต ลักษณะทางด้านกายภาพของ Airedale TerrierAiredale Terrier มีลำตัวสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ซึ่งเน้นย้ำเฉพาะโดยขาหน้าที่ตรงอย่างไม่น่าเชื่อและก็ทรวงอกที่กว้างแล้วก็ลึก หัวและก็ปากกระบอกยาวมีทั้งยังกว้างรวมทั้งแบนรวมทั้งมีหูแหลมเล็กซึ่งพับลงแทบตลอดระยะเวลา หางที่แข็งและก็โค้งนิดหน่อยของ Airedale Terrier ชอบเทียบท่ารวมทั้งจำนวนมากชอบเป็นสีดำ ลำตัวที่แข็งแรงของหมาจำพวกนี้ส่วนมากมีสีแทน (รวมทั้งหูของมัน) มีสีดำแล้วก็บางโอกาสก็มีสีแดง ขนสองชั้นกันน้ำได้โดยมีชั้นหยาบคายแล้วก็มีความแข็งแรงซึ่งบุด้วยขนที่อุ่นนุ่มกว่า (คุณสมบัติเฉพาะของ Otter Hound) Airedale Terrier ยังมีกลิ่นที่หอมมากมายเหตุเพราะมีส่วนผสมของ

คางคกต้นไม้แอฟริกัน

การแบ่งรวมทั้งพัฒนาการของคางคกต้นไม้แอฟริกาคางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นคางคกขนาดเล็กที่เจอในป่าของแอฟริกากึ่งกลาง ขณะนี้ยังไม่ค่อยมีผู้ใดเข้าใจสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกขนาดเล็กและก็ปริมาณประชาชนที่ต่ำลงโดยตลอดของคางคกต้นไม้แอฟริกาทำให้พวกเราทำความเข้าใจเพิ่มอีกเกี่ยวกับพวกมันได้ยากขึ้น มีสายพันธุ์ย่อยที่รู้จักกันสองประเภทของคางคกต้นไม้แอฟริกันหมายถึงคางคกต้นไม้แอฟริกันรวมทั้งคางคกต้นไม้เบทส์ คางคกต้นไม้แอฟริกันทั้งสองประเภทมีขนาดรวมทั้งสีใกล้เคียงกัน แต่ว่าชอบแตกต่างในภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ที่พวกมันอาศัยอยู่ ทดลองเล่นสลอต กายส่วนแล้วก็ลักษณะคางคกของต้นไม้แอฟริกันคางคกต้นไม้แอฟริกันโดยปกติจะมีสีแก่ถึงน้ำตาลอ่อนโดยมีสีขาวเป็นหย่อมๆที่ท้องของมันรวมทั้งเหมือนกันกับคางคกจำพวกอื่นๆคางคกต้นไม้แอฟริกันได้รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อช่วยสำหรับการดำรงชีพครึ่งน้ำรวมทั้งการปีนต้นไม้ คางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นสัตว์บกและก็ใช้นิ้วเท้าช่วยกระโจนลงบนพื้น นิ้วเท้าของคางคกต้นไม้แอฟริกันมีความยาวแล้วก็บางมีแผ่นกลมเหนียวที่ปลาย จำนวนที่กระจัดกระจายอย่างมากมายกลุ่มนี้ทำให้คางคกตัวนี้ยึดเกาะบนพื้นที่ผิวที่ใหญ่มากยิ่งกว่าได้ ลำตัวลายเล็กๆของคางคกต้นไม้แอฟริกันมีความยาว 3.8 เซนติเมตร ทำให้สัตว์พวกนี้เห็นได้ยากโดยยิ่งไปกว่านั้นท่ามกลางเศษซากบนพื้นป่าการแพร่แล้วก็ที่พักอาศัยของคางคกต้นไม้แอฟริกันคางคกต้นไม้แอฟริกันมีการกระจัดกระจายจำพวกไปตามธรรมชาติของแอฟริกากึ่งกลางในประเทศต่างๆอาทิเช่นแคเมอรูนสาธารณรัฐระบบประชาธิปไตยคองโกอิเควทอเรียลกินีกาบองและก็ไนจีเรีย แม้กระนั้นหัวข้อนี้มีบันทึกเกี่ยวกับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่เข้าใจยากนี้น้อยมากซึ่งแปลว่าผู้กระทำระจายของมันส่วนมาก (รวมทั้งขนาดของสามัญชน) เป็นเพียงแต่การคาดการณ์ ที่อยู่ที่อาศัยตามธรรมชาติของคางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นป่าดิบชื้นครึ่งเขตร้อนหรือเขตร้อนชื้นและก็ป่าในสมัยก่อนที่เสียอย่างมากซึ่งมีแหล่งน้ำที่สมบูรณ์บริบูรณ์ อย่างไรก็ดีในขณะนี้คางคกต้นไม้แอฟริกันมักถูก จำกัด ให้อยู่ในป่าที่สูงขึ้น ทดลองเล่นสล๊อต การกระทำรวมทั้งวิถีชีวิตของคางคกแอฟริกันเหมือนกันกับคางคกอื่นๆคางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นสัตว์ครึ่งหนึ่งน้ำแม้ว่าจะพบมากที่สุดในน้ำเมื่อตัวเมียออกไข่ ในแบบเดียวกันกับคางคกในเขตร้อนจำพวกอื่นๆคางคกต้นไม้แอฟริกันดำเนินชีวิตโดยมากสำหรับเพื่อการเดินกระโจนหรือวิ่งบนพื้นดินที่สามารถหาอาหารรวมทั้งน้ำได้มากมาย แม้กระนั้นเมื่อความมืดดำมิดลงคางคกต้นไม้แอฟริกันจะถอยสูงเข้าไปในพรรณไม้รอบๆเพื่อรักษาความปลอดภัยในเวลากลางคืนจากนักล่าที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน สีและก็สัญลักษณ์บนผิวหนังของพวกมันทำให้คางคกต้นไม้แอฟริกันอำพรางตัวท่ามกลางป่ารอบๆอีกทีให้การปกป้องเป็นพิเศษจากนักล่าที่หิวโหยการสืบเผ่าพันธุ์ของคางคกแอฟริกันแล้วก็วงจรชีวิตไม่ค่อยมีคนไหนกันแน่เข้าใจการขยายพันธุ์ของคางคกต้นไม้แอฟริกันนอกจากความเป็นจริงที่ว่าคางคกต้นไม้แอฟริกันเพศภรรยาออกไข่เหนียวได้มากถึง 200 ฟองในแหล่งน้ำขนาดเล็กที่เจอในโพรงต้นไม้กลวง หลังจากนั้นสถานที่ออกไข่กลุ่มนี้จะถูกคุ้มครองป้องกันโดยคางคกต้นไม้แอฟริกาเพศผู้จวบจนกระทั่งไข่เล็กๆจะฟักเป็นลูกอ๊อด ไม่รู้จักว่าลูกอ๊อดรับประทานอะไร แม้กระนั้นเมื่อปรับปรุงแล้วพวกมันก็กระโจนออกมาจากรังในน้ำบนต้นไม้แล้วก็เริ่มล่าสัตว์เป็นของกินในป่า คางคกต้นไม้แอฟริกันที่ถูกกักคุมชอบมีชีวิตอยู่จนกระทั่งอายุสามหรือสี่ปี แต่ว่าไม่มีผู้ใดทราบเกี่ยวกับอายุขัยของพวกมันในป่า เครดิตฟรี คางคกต้นไม้แอฟริกันของกินรวมทั้งเหยื่อคางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำที่รับประทานเนื้อเป็นของกินที่ยิงลิ้นยาวเหนียวออกมาจากปากด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อสำหรับการจับและก็ยึดเหยื่อของมัน นอกเหนือจากนั้นยังช่วยทำให้คางคกจับได้ในขณะมันมานะรับประทาน คางคกต้นไม้แอฟริกันล่าสัตว์ไร้กระดูกสันหลังขนาดเล็กเป็นหลักได้แก่แมลงหนอนรวมทั้งแมงมุมที่วิ่งหนีท่ามกลางเศษซากบนพื้นป่า ในลักษณะเดียวกันกับคางคกสายพันธุ์อื่นๆรู้สึกว่าคางคกต้นไม้แอฟริกันนั่งเฉยๆรอคอยให้อาหารช่วงกลางวันผ่านไปก่อนจะจับมันด้วยความเร็วแสงสว่างคางคกนักล่ารวมทั้งภัยรุกรามจากต้นไม้แอฟริกันเพราะว่ามีขนาดเล็กคางคกต้นไม้แอฟริกันก็เลยเช้าใจกันว่ามีสัตว์นักล่าเยอะมากในสิ่งแวดล้อมที่อบอุ่นรวมทั้งเฉอะแฉะ ปลานกกิ้งก่างูสัตว์ฟันแทะเล็มและก็สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำขนาดใหญ่อื่นๆอย่างเช่นกบและก็คางคกล้วนมีความรู้สึกว่าเป็นสัตว์นักล่าทั่วๆไปของคางคกต้นไม้แอฟริกัน ภัยรุกรามที่ใหญ่ที่สุดที่คาดคะเนว่ามีต่อคางคกต้นไม้แอฟริกันเป็นการสูญเสียที่พักอาศัยในลักษณะของการทำลายป่าแล้วก็มลภาวะทางอากาศรวมทั้งทางทะเลในที่พักอาศัยตามธรรมชาติในระดับที่น้อยกว่า แต่ไม่ค่อยมีคนใดกันแน่ทราบเกี่ยวกับผลพวงโดยตรงของการสูญเสียที่พักอาศัยของสิ่งมีชีวิตโดยรวมข้อสรุปและก็คุณลักษณะที่น่าดึงดูดของคางคกต้นไม้แอฟริกันไม่ค่อยมีคนใดกันแน่ทราบเกี่ยวกับคางคกต้นไม้แอฟริกันด้วยเหตุว่ามีบันทึกเพียงแค่ไม่กี่รายการในตอนที่ จำกัด มากมายและก็ในความจริงไม่มีบันทึกใดที่การันตีการดำรงชีพของมันผ่านทางที่พักอาศัยตามธรรมชาติโดยมาก เป็นเพียงแต่การคาดเดาว่าคางคกต้นไม้แอฟริกามีอยู่ในเขตพื้นที่กลุ่มนี้ โปรสล๊อต คางคกต้นไม้แอฟริกันความเชื่อมโยงกับมนุษย์ถึงแม้ผู้คนจะได้รับการเรียนในระดับเล็กๆแต่ว่าก็ยังไม่ค่อยมีใครกันแน่ทราบเกี่ยวกับคางคกตัวเล็กๆนี้ อย่างไรก็ดีพวกเขาเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่ามีความเกี่ยวข้องกับกิจการค้าสัตว์เลี้ยงแปลกใหม่ คางคกต้นแอฟริกันที่มีขนาดเล็กทำให้พวกมันเห็นได้ยากมากมายในถิ่นที่อยู่ซึ่งแสดงว่ายังไม่รู้จักผลพวงของกิจกรรมของผู้คนที่มีต่อคางคกในพื้นที่กลุ่มนี้ การตัดต้นไม้ทำลายป่าไม้ในพื้นที่ตามธรรมชาติรวมถึงอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตซึ่งทำให้เกิดมลพิษในระดับที่ค่อนข้างสูงขึ้นนั้นรู้สึกว่าจะมีผลให้ประชาชนคางคกแอฟริกันลดน้อยลงสถานะการอนุรักษ์และรักษาคางคกแอฟริกันและก็ชีวิตวันนี้เดี๋ยวนี้คางคกแอฟริกันเกือบจะไม่มีให้มองเห็นในป่าแอฟริกา แม้กระนั้นถูกจัดให้เป็นจำพวกที่มีความหนักใจต่ำที่สุดว่าจะสิ้นพันธุ์ในอนาคตอันใกล้ อย่างไรก็แล้วแต่นี่เป็นไปตามผู้กระทำระจายจำพวกที่น่าจะเป็นไปได้ทั่วอีกทั้งแอฟริกากึ่งกลางถึงแม้ว่าพวกเขาจะรู้ดีว่ามีอยู่จริงในพื้นที่พวกนี้เพียงแต่ไม่กี่ที่ มีการคาดคะเนกันอย่างมากมายว่าพลเมืองคางคกแอฟริกันกำลังน้อยลง

ช้างป่าแอฟริกา

การจำแนกและวิวัฒนาการของช้างป่าแอฟริกาช้างป่าแอฟริกาเป็นหนึ่งในสองสายพันธุ์ช้างในทวีปแอฟริกา จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้นักวิทยาศาสตร์คิดว่าพวกมันเป็นสปีชีส์เดียวกัน แต่การศึกษาเพิ่มเติมพบว่ามีความหลากหลายเพียงพอที่จะรับประกันสถานะของสายพันธุ์ย่อย ช้างป่าแอฟริกามีขนาดเล็กกว่าช้างแอฟริกันบุชเล็กน้อย แต่ยังคงเป็นสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดชนิดหนึ่งบนบกในปัจจุบัน แม้ว่าทั้งสองสายพันธุ์จะมีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ช้างป่าแอฟริกันมีหูกลมงาตรงและเล็บเท้ามากกว่าช้างแอฟริกาพุ่มไม้ ทดลองเล่นสลอต กายวิภาคและลักษณะช้างป่าแอฟริกา ช้างป่าแอฟริกันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมบนบกที่มีชื่อเสียงที่สุดชนิดหนึ่งในโลกโดยช้างป่าแอฟริกาตัวผู้มีความสูงเกือบ 3 เมตรและช้างป่าแอฟริกันเพศเมียประมาณ 2.5 เมตร งาของช้างป่าแอฟริกันสามารถเติบโตได้ยาวเกือบ 1.5 เมตรและโดยทั่วไปมีน้ำหนักระหว่าง 50 ถึง 100 ปอนด์ซึ่งใกล้เคียงกับมนุษย์ตัวเล็ก ๆ พวกมันบางกว่าตรงและสั้นกว่างาของช้างแอฟริกันบุช ช้างป่าแอฟริกามีฟันกรามสี่ซี่แต่ละซี่มีน้ำหนักประมาณ 5.0 กก. และยาวประมาณ 12 นิ้ว พวกเขามีหูกลมขนาดใหญ่ซึ่งใช้สำหรับการได้ยินและเพื่อให้พวกเขาเย็น การแพร่กระจายและถิ่นที่อยู่ของช้างป่าแอฟริกา ช้างป่าแอฟริกันส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในแอฟริกาตอนกลางและตอนใต้เป็นฝูงเร่ร่อนที่เร่ร่อนไปตามป่าและทุ่งหญ้าของแอฟริกาเพื่อกินหญ้าและค้นหาโพรงน้ำ มักพบมากที่สุดในป่าทึบเขตร้อนซึ่งมีขนาดเล็กกว่าทำให้สามารถเคลื่อนย้ายผ่านพืชพันธุ์หนาทึบได้ง่ายกว่าช้างแอฟริกาพุ่มไม้ขนาดใหญ่ ช้างป่าแอฟริกันถูกคุกคามจากแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติส่วนใหญ่ในปัจจุบันส่วนใหญ่เกิดจากการตัดไม้ทำลายป่าและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและถูกผลักเข้าไปในดินแดนพื้นเมืองที่มีขนาดเล็กลงและเล็กลง ทดลองเล่นสล๊อต พฤติกรรมและวิถีชีวิตของช้างป่าแอฟริกา ช้างป่าแอฟริกันส่วนใหญ่ใช้งาขนาดใหญ่ในการขุดหารากในพื้นดินและลอกเปลือกออกจากต้นไม้ ช้างป่าแอฟริกันยังใช้งาของมันเพื่อป้องกันตัวเองจากสัตว์นักล่าเช่นสิงโตและต่อสู้กับช้างป่าแอฟริกาตัวผู้ตัวอื่น ๆ ในช่วงฤดูผสมพันธุ์ โดยทั่วไปแล้วเพศชายจะค่อนข้างโดดเดี่ยว แต่ตัวเมียและกลุ่มเล็ก ๆ ของพวกเขาเป็นกลุ่มครอบครัวเล็ก ๆ ที่เรียกว่าฝูง สิ่งนี้ช่วยให้ลูกหลานที่เปราะบางได้รับการปกป้องได้ง่ายขึ้น ช้างป่าแอฟริกันสื่อสารผ่านการโทรความถี่ต่ำซึ่งสามารถตรวจจับได้จากระยะทางไม่กี่กิโลเมตร การสืบพันธุ์ของช้างป่าแอฟริกันและวงจรชีวิต ช้างป่าแอฟริกันเพศเมียถึงวัยเจริญพันธุ์ (สามารถสืบพันธุ์ได้) หลังจาก 10 หรือ 11

ช้างแอฟริกันบุช

การแบ่งรวมทั้งพัฒนาการของช้างแอฟริกันบุชช้างแอฟริกันบุชเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาสิ่งมีชีวิตบนบกในขณะนี้โดยบางบุคคลมีน้ำหนักตัวมากยิ่งกว่า 6 ตัน เช้าใจกันว่าช้างได้รับการตั้งชื่อตามคำภาษากรีกสำหรับงาซึ่งแปลว่าช้างได้รับการตั้งชื่อตามงายาวที่มีเอกลักษณ์ ถึงแม้บรรพบุรุษของช้างแอฟริกันบุชหลายๆคนจะสิ้นพันธุ์ไปในตอนสมัยน้ำแข็งในที่สุด (รวมทั้งแมมมอ ธ วูลลี) แม้กระนั้นปัจจุบันนี้ยังมีช้างอยู่ 3 ประเภทที่ไม่เหมือนกันซึ่งเป็นช้างทวีปเอเชีย ) ช้างแอฟริกาพุ่มรวมทั้งช้างป่าแอฟริกา ถึงแม้ว่าช้างทั้งสองแบบนี้จะมีความคล้ายกันมากมาย แม้กระนั้นช้างแอฟริกันบุชจัดว่ามีขนาดใหญ่กว่าช้างป่าแอฟริกาซึ่งมีเครื่องทอผ้าลมและก็งาที่ตรงกว่ากายส่วนและก็รูปแบบของช้างแอฟริกันบุชช้างแอฟริกันบุชเป็นสัตว์เลือดอุ่นบนบกที่รู้จักกันดีเยี่ยมที่สุดในโลกโดยช้างแอฟริกันบุชเพศผู้มีความสูงได้ถึง 3.5 เมตรและก็ตัวเมียมีขนาดเล็กกว่าน้อยที่สูงโดยประมาณ 3 เมตร ร่างกายของช้างแอฟริกันบุชยังสามารถเติบโตได้ยาวระหว่าง 6 ถึง 7 เมตร งาของช้างแอฟริกาบุชมีความยาวแทบ 2.5 เมตรแล้วก็โดยธรรมดามีน้ำหนักระหว่าง 50 ถึง 100 ปอนด์ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกับมนุษย์ตัวโต ช้างแอฟริกันบุชมีฟันกรามสี่ซี่แต่ละซี่มีน้ำหนักราวๆ 5.0 กิโลกรัม รวมทั้งยาวราวๆ 12 นิ้ว เมื่อฟันกรามคู่หน้าในปากของช้างแอฟริกันบุชสึกลงรวมทั้งหลุดออกเป็นชิ้นๆฟันกรามคู่ข้างหลังจะเขยื้อนไปด้านหน้ารวมทั้งฟันกรามใหม่สองซี่โผล่ที่ข้างหลังของปากช้างแอฟริกันบุช ทดลองเล่นสลอต การแพร่ขยายรวมทั้งถิ่นที่อยู่ของช้างแอฟริกันบุชถึงแม้ว่าบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์จะอยู่ในเขตอาร์กติกเซอร์เคิล แม้กระนั้นในขณะนี้ช้างแอฟริกันบุชโดยมากเจอในแอฟริกาใจกลางรวมทั้งตอนใต้ในฝูงตะลอนที่ตะลอนไปดังที่ราบและก็ท้องทุ่งของแอฟริกาเพื่อรับประทานต้นหญ้าแล้วก็ค้นหาร่องน้ำ ช้างแอฟริกันบุชไม่เหมือนกับช้างป่าแอฟริกันที่มีขนาดเล็กกว่าน้อยช้างแอฟริกันบุชอาศัยอยู่ในท้องทุ่งสะวันนาที่เต็มไปด้วยต้นหญ้าแล้วก็พื้นที่พุ่มของทวีปแอฟริกาในกรุ๊ปที่มีแม่แล้วก็ลูก โดยธรรมดาฝูงช้างแอฟริกันบุชมีฝูงราว 10 ตัว แม้กระนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกที่กรุ๊ปครอบครัวจะจับกลุ่มกันก่อตั้งกรุ๊ปที่สามารถมีช้างได้มากกว่า 1,000 ตัว วิถีชีวิตทางด้านสังคมนี้แปลว่าช้างแอฟริกันบุชมีการเสี่ยงน้อยกว่าในที่ราบแอฟริกันที่เปิดกว้าง ความประพฤติปฏิบัติและก็วิถีชีวิตของช้างแอฟริกันบุชช้างแอฟริกันบุชไม่เพียงแต่ แม้กระนั้นเป็นสัตว์เลือดอุ่นที่เข้าสังคมได้อย่างไม่น่าเชื่อ แม้กระนั้นยังเป็นสัตว์ที่มีความกระตือรือร้นอีกด้วย ช้างแอฟริกันบุชเป็นสัตว์ระหกระเหินซึ่งแปลว่าพวกมันเคลื่อนอยู่เสมอเวลาเพื่อหาอาหารโดยเหตุนี้การโยกย้ายข้างในฝูงครอบครัวเหล่านี้สามารถที่จะช่วยให้พวกมันได้รับการป้องกันเยอะขึ้นทั้งยังจากผู้ตามล่าแล้วก็จากสิ่งต่างๆลำต้นของช้างแอฟริกันบุชเป็นเยี่ยมในคุณลักษณะที่สะดุดตาที่สุดและก็จมูกที่ยาวเป็นพิเศษนี้ไม่เพียงแต่ แต่ว่ายืดหยุ่นพอที่จะเก็บรวมทั้งจัดแจงของกิน แต่ว่ายังสามารถเก็บน้ำได้อีกด้วย

เพนกวินอาเดลี

การแบ่งรวมทั้งพัฒนาการของเพนกวิน Adelieเพนกวิน Adelie เป็นเพนกวินสายพันธุ์ที่เล็กที่สุดรวมทั้งมีการแพร่ไปอย่างมากมายที่สุดในห้วงมหาสมุทรใต้รวมทั้งเป็นเพนกวินเพียงแค่สองประเภทที่เจอบนแผ่นดินแอนตาร์กติก (อีกประเภทหนึ่งเป็นเพนกวินจักรพัตราธิราชที่มีขนาดใหญ่กว่ามากมาย) นกเพนกวิน Adelie ได้รับการตั้งชื่อในปี พุทธศักราช 2383 โดยนักตรวจชาวประเทศฝรั่งเศส Jules Dumont d’Urville ซึ่งตั้งชื่อนกเพนกวินให้กับเมียของเขา Adelie นกเพนกวิน Adelie ปรับพฤติกรรมกับชีวิตในแอนตาร์กติกเจริญเนื่องด้วยนกย้ายถิ่นกลุ่มนี้อยู่ในช่วงฤดูหนาวในน้ำแข็งทางภาคเหนือก่อนจะกลับลงใต้ไปยังริมตลิ่งแอนตาร์กติกในช่วงฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่น ทดลองเล่นสลอต Adelie Penguin Anatomy and Appearanceนกเพนกวินอาเดลีเป็นเยี่ยมในนกเพนกวินซึ่งสามารถระบุตัวตนได้ง่ายที่สุดโดยมีข้างหลังสีน้ำเงิน – ดำอกแล้วก็ท้องสีขาวสนิท หัวและก็จะงอยปากของนกเพนกวิน Adelie มีอีกทั้งสีดำพร้อมวงแหวนสีขาวที่เด่นรอบดวงตา เท้าสีชมพูที่แข็งแรงของนกเพนกวิน Adelie นั้นกล้าแกร่งและก็เป็นหลุมเป็นบ่อด้วยตะปูที่ไม่เพียงแต่ แต่ว่าช่วยเพนกวิน Adelie สำหรับการป่ายปีนผาหินเพื่อไปถึงรอบๆที่สร้างรัง แต่ว่ายังช่วยสนับสนุนพวกมันไปด้วยเมื่อพวกมันเลื่อน (พายเรือ) ไปตามน้ำแข็ง . นกเพนกวิน Adelie ยังคงใช้เท้าที่เป็นพังผืดกับตีนกบขนาดเล็กเพื่อขับพวกมันเมื่อว่ายในน้ำเย็น Adelie Penguin Distribution and Habitatนกเพนกวิน Adelie เป็นเลิศในนกที่อยู่ด้านใต้เยอะที่สุดในโลกเหตุเพราะเจอได้ตามแนวริมตลิ่งแอนตาร์กติกรวมทั้งบนเกาะใกล้ๆในฤดูหนาวนกเพนกวิน Adelie จะย้ายถิ่นไปด้านเหนือซึ่งอาศัยอยู่ในพื้นที่น้ำแข็งขนาดใหญ่และก็สามารถเข้าถึงของกินเจริญขึ้น ในฤดูร้อนที่อากาศอบอุ่นนกเพนกวิน Adelie จะกลับมาทางด้านใตนซึ่งพวกเขามุ่งหน้าไปยังหาดริมฝั่งเพื่อค้นหาพื้นดินที่ไม่มีน้ำแข็งบนเนินหินซึ่งพวกมันสามารถสร้างรังของพวกมันได้

นกอีมู

“ นกอีมูวิ่งได้ 9 ฟุต” Emus ก่อสร้างบ้านของพวกเขาในทวีปออสเตรเลีย พวกมันสามารถเติบโตได้มากถึง 6.2 ฟุต นกประเภทนี้มีลักษณะคล้ายกับนกกระจอกเทศ อีมัสเป็นสัตว์รับประทานพืชที่รับประทานเมล็ดพืชผลไม้แมลงรวมทั้งสัตว์ขนาดเล็ก อายุขัยของพวกเขาอยู่ที่ 5 ถึง 10 ปีในป่านกที่น่าทึ่ง: 5 ความจริงเกี่ยวกับนกอีมู!นกอีมูมีการโทรที่เด่นที่สามารถได้ยินได้ห่างออกไปหนึ่งไมล์นักล่าหลักของนกอีมูเป็นดิงโกนกอินทรีรวมทั้งเหยี่ยวนกอีมูมีเยื่อใสอยู่เหนือดวงตาแต่ละข้างเพื่อคุ้มครองปกป้องฝุ่นผงกลางอากาศอีมัสเคลื่อนตลอดระยะเวลาเพื่อหาอาหารและก็น้ำอีมัสมีปีก แต่ว่าไม่บินชื่อวิทยาศาสตร์ Emuชื่อด้านวิทยาศาสตร์สำหรับนกอีมูเป็น Dromaius novaehollandiae คำว่า Dromaius เป็นภาษากรีกซึ่งก็คือนักวิ่งแล้วก็คำว่า novaehollandiae ซึ่งก็คือชาว New Hollander New Hollander หมายความว่าการแบ่งประเภทและชนิดแรกของนกประเภทนี้ว่า New Holland Cassowary เป็นของเชื้อสาย Dromaiidae รวมทั้งอยู่ในชั้น Aves นกอีมูมี 4 จำพวกย่อย ชื่อวิทยาศาสตร์ของแต่ละคนเป็น: ทดลองเล่นสลอต • D. novaehollandiae novaehollandiae• D. novaehollandiae woodwardi• D. novaehollandiae rothschildi• D.